เปิดโลกการอ่านให้ลูกน้อย (modernmom)
เพียงแค่หนังสือเล่มเล็ก ๆ เล่มหนึ่ง สามารถช่วยกระตุ้นพัฒนาการทั้งด้านสมองภาษา ความคิด และจินตนาการ ซึ่งการอ่านสามารถปลูกฝังได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก ไม่มีเด็กคนไหนเล็กเกินไปที่จะรู้จัก และสัมผัสหนังสือ
แรกเกิดถึง 3 เดือน
ลูกวัยนี้เป็นวัยที่รู้สึกอุ่นใจ เมื่อรู้ว่าพ่อแม่อยู่ใกล้ๆ สนใจเสียงต่าง ๆ และอยากจะได้ยินเสียงพ่อแม่อยู่ ดังนั้น คุณแม่อ่านอะไรให้เขาฟังก็ได้ค่ะ แล้วเขาจะเพลิดเพลินไปกับเสียงของคุณแม่ และรู้สึกอบอุ่น สงบ และมีความสุขแล้วค่ะ
Book for Baby : หนังสือนิทานคำกลอน หรือคำคล้องจองที่มีทำนองเหมือนดนตรี ซึ่งเป็นหนังสือนิทานที่เน้นให้พ่อแม่อ่านให้ลูกฟัง ส่วนภาพประกอบอาจมีสีสันหรือเป็นขาวดำก็ได้ เพราะทารกยังมองไม่เห็นสีอื่น
4-6 เดือน
เริ่มมองสิ่งต่าง ๆ รอบตัวชัดขึ้น สามารถมองเห็นสี และความใกล้ไกลได้ใกล้เคียงผู้ใหญ่ จะสนใจรูปภาพและของเล่นสีสันสดใส และกำลังชอบจับ สัมผัส ทึ้ง ขยำสิ่งของต่าง ๆ อีกทั้งจดจำเสียงที่ได้ยินบ่อย ๆ ได้ เช่น เสียงพูดของพ่อแม่ เสียงสุนัขที่บ้าน เป็นต้น
Book for Baby : ควรเลือกหนังสือที่มีภาพประกอบสีสันสดใสตัดกับสีพื้น และทำจากวัสดุที่ทนทาน หรือทำจากผ้านุ่มๆ และใช้สีปลอดสารพิษ เพราะเจ้าตัวเล็กมักจะเอาของเข้าปากค่ะ
6-9 เดือน
ตอนนี้ลูกน้อยเริ่มนั่งได้แล้ว และมีการส่งเสียง เมื่อมีอารมณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าชอบใจ ไม่พอใจ และเข้าใจคำพูดของพ่อแม่มากขึ้น สามารถหยิบจับของชิ้นเล็กๆ ได้มั่นเหมาะขึ้นแล้ว
Book for Baby : หาหนังสือที่ทำจากกระดาษแข็ง เพื่อการพลิกเปิดง่าย ขนาดกะทัดรัด ไว้ให้ลูกได้ลองถือเล่นหรือเปิดเอง โดยควรมีภาพประกอบขนาดใหญ่ สีสันสดใส เป็นเรื่องเกี่ยวกับสัตว์หรือสิ่งที่เขาคุ้นเคย
9-12 เดือน
ตอนนี้ลูกเริ่มมีส่วนร่วมในการอ่านมากขึ้น โดยเรียนรู้คำเชื่อมโยงกับท่าทางต่าง ๆ เช่น "ไม่" กับการสั่นหัว "บ๊ายบาย" กับการโบกมือ มีการเลียนแบบการออกเสียง และพูดออกมาเป็นคำ ๆ ได้บ้าง อีกทั้งเริ่มจดจำสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้มากขึ้น
Book for Baby : หนังสือที่มีผิวสัมผัสหลากหลาย หรือหนังสือ Pop-Up ที่มีให้ดึง กด ลาก หรือมีรูให้เอานิ้วแหย่ได้ขนาดพอเหมาะ น้ำหนักเบา ทำด้วยกระดาษแข็ง เพื่อให้ลูกได้ลองอ่านเอง บางคนอาจเริ่มพูดเป็นคำ ๆ แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะหาเรื่องที่เขาพูดตามได้ เป็นคำคล้องจองง่ายๆ หรือวลีสั้น ๆ เลือกเรื่องที่ใกล้ตัว และมีรูปภาพคุ้นตาที่ลูกสามารถเชื่อมโยงให้เข้าใจได้ค่ะ
1-2 ปี
ตอนนี้ลูกเริ่มเรียนรู้เรื่องเหตุและผล รู้จักเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของเรื่องและรูปภาพ เข้าใจความหมายที่พ่อแม่พูด จากการสังเกตน้ำเสียง มีอารมณ์ร่วมกับนิทานที่พ่อแม่อ่านให้ฟังมากขึ้น และสามารถจดจำเรื่องราวต่าง ๆ ได้
Book for Toddler : เลือกหนังสือที่เป็นภาพสัตว์และคนตัวอักษรโต ๆ มาอ่านให้ลูกฟัง และค่อยอ่านช้า ๆ แบ่งเป็นวรรคสั้น ๆ เพื่อให้เขาได้ค่อย ๆ จดจำเรื่องราว และด้วยความที่ลูกวัยนี้ เป็นนักสำรวจตัวยง ควรเลือกหนังสือที่เปิดง่ายและทนทาน เพื่อให้เขาสามารถพลิกหน้ากระดาษเองได้อย่างเพลิดเพลิน แล้วเจ้าตัวเล็ก ก็จะคว้าหนังสือมาดูซ้ำอีกค่ะ
2-3 ปี
ช่วงนี้ลูกกำลังเรียนรู้คำศัพท์ต่าง ๆ และมีพัฒนาการการฟังเพิ่มขึ้น ชอบดูหนังสือภาพ พูดเป็นประโยคสั้น ๆ ที่มีคำ 4 คำได้ และรู้จักตั้งคำถามกับสิ่งต่าง ๆ
Book for Toddler : ควรเลือกหนังสือที่มีความยากมากขึ้นได้ แต่เนื้อหาไม่ควรยาวมาก โครงเรื่องไม่ซับซ้อน เป็นเรื่องเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน จำนวนคำไม่เยอะ และอาจนำเสนอในรูปคำคล้องจอง
3-6 ปี
วันนี้พูดได้คล้องขึ้นแล้ว ชอบตั้งคำถามกับคุณพ่อคุณแม่ เช่น ทำไม เมื่อไหร่ อย่างไร และถามความหมายของคำต่าง ๆ มีการตอบโต้กับผู้ใหญ่ด้วยคำพูดมากขึ้น สนใจเรื่องสนุก ตลก และภาษาแปลก ๆ ชอบการอ่าน และมีการแสดงท่าทางประกอบ เมื่ออยู่กับเพื่อนหรืออยู่คนเดียว ชอบท่องหรือร้องเพลงที่มีจังหวะ และเนื้อร้องที่มีคำสัมผัสกัน ยิ่งถ้าได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง แล้วก็จะเข้าหาหนังสือได้ง่าย
Book for Kids : เลือกหนังสือที่ภาพมีขนาดใหญ่ มองเห็นชัดเจน สีสัน สดใส ภาพลายเส้นอาจจะสลับซับซ้อนได้เพื่อกระตุ้นจินตนาการของเด็ก เนื้อเรื่องไม่ควรสั้นหรือยาวเกินไป ใช้ภาษาสั้น กระชับ เข้าใจง่าย เนื้อหาไม่ควรซับซ้อน ตัวละครไม่มากเพราะจะทำให้สับสนค่ะ และควรเลือกเล่มที่ตัวหนังสือขนาดใหญ่ เพราะวัยนี้เด็กเริ่มอ่านเองได้บ้างแล้ว หากชี้นิ้วไล่ไปตามเรื่องที่เล่า จะช่วยให้ลูกเชื่อมโยงไปกับนิทานได้
หนังสือที่เหมาะสมกับช่วงวัย และพัฒนาการของลูก ก็จะช่วยส่งเสริมลูกให้ได้เรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมตามวัย และเดี๋ยวนี้ มีวิวัฒนาการด้านการอ่านเปลี่ยนไป มีทั้ง e-book หรือการอ่านผ่านอินเตอร์เน็ต แต่การอ่านอย่างนั้น ลูกไม่มีโอกาสได้สัมผัสความแข็งของกระดาษหนังสือ หรือความนุ่มของผ้าที่เอามาใช้ ก็เป็นการสร้างความเรียนรู้แปลกใหม่ให้กับเจ้าตัวเล็กได้แล้ว ซึ่งนี่เป็นความรู้สึกที่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถให้ได้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น